5 ข้อผิดพลาดในการใช้ยาสามัญประจำบ้านที่หลายคนมองข้าม

ยาสามัญประจำบ้านเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ได้โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม หลายคนมักใช้ยาโดยไม่ระมัดระวัง ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ มาดูกันว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยง


1. ใช้ยาโดยไม่อ่านฉลากและวิธีใช้ให้ละเอียด

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการใช้ยาโดยไม่อ่านฉลากหรือวิธีใช้อย่างละเอียด ซึ่งอาจทำให้ได้รับยาเกินขนาดหรือใช้ผิดวิธีได้ เช่น

  • การกินยาแก้ปวดพาราเซตามอลเกินขนาด อาจส่งผลต่อการทำงานของตับ
  • การใช้ยาแก้แพ้โดยไม่รู้ว่าอาจทำให้ง่วง อาจเป็นอันตรายหากต้องขับรถหรือทำงานที่ต้องใช้สมาธิ

💡 วิธีแก้ไข: ก่อนใช้ยา ควรอ่านฉลากและคำแนะนำให้ครบถ้วน รวมถึงศึกษาผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น


2. ใช้ยาเกินขนาดหรือใช้ยาติดต่อกันนานเกินไป

บางคนคิดว่าเมื่ออาการยังไม่ดีขึ้น ก็ควรเพิ่มขนาดยาเอง หรือใช้ยาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น

  • การใช้ยาลดกรดติดต่อกันนาน อาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลของกรดในกระเพาะอาหาร
  • การกินยาแก้ปวดบ่อยๆ อาจทำให้เกิดภาวะดื้อยาและทำให้ตับหรือไตทำงานหนักขึ้น

💡 วิธีแก้ไข: ใช้ยาในปริมาณที่แนะนำ และหากอาการไม่ดีขึ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด ควรพบแพทย์


3. เก็บยาไม่ถูกต้อง ทำให้ยาเสื่อมคุณภาพ

บางคนเก็บยาไว้ในที่ร้อนหรือชื้น เช่น ห้องน้ำ หรือในรถยนต์ ซึ่งอาจทำให้ตัวยาเสื่อมประสิทธิภาพเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว เช่น

  • ยาน้ำเชื่อมที่ต้องเก็บในตู้เย็น แต่กลับวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง ทำให้ยาเสื่อมคุณภาพ
  • ยาเม็ดที่เก็บในที่ชื้น อาจเกิดเชื้อรา หรือยาเปลี่ยนสี

💡 วิธีแก้ไข: ควรเก็บยาในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด และตรวจสอบวันหมดอายุเป็นประจำ


4. ใช้ยาผิดประเภท หรือใช้ยาร่วมกันโดยไม่รู้ผลกระทบ

บางครั้งเราอาจใช้ยาผิดประเภท หรือใช้ยาหลายชนิดพร้อมกันโดยไม่รู้ว่ามีผลข้างเคียง เช่น

  • ใช้ยาแก้ปวดที่มีแอสไพรินร่วมกับยาลดการแข็งตัวของเลือด อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะเลือดออกง่าย
  • ใช้ยาปฏิชีวนะผิดประเภท เช่น ใช้ยาแก้อักเสบ (ซึ่งไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อ) แทนยาปฏิชีวนะ

💡 วิธีแก้ไข: ควรศึกษาข้อมูลยาให้ดี และหากต้องใช้ยาหลายชนิด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน


5. ใช้ยาเก่า หรือยาใกล้หมดอายุโดยไม่ตรวจสอบ

หลายคนอาจคิดว่ายาที่หมดอายุไปไม่นานยังใช้ได้ แต่ในความเป็นจริง ยาหมดอายุอาจมีประสิทธิภาพลดลง หรืออาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เป็นอันตราย เช่น

  • ยาปฏิชีวนะที่หมดอายุ อาจไม่สามารถฆ่าเชื้อได้เต็มประสิทธิภาพ
  • ยาน้ำที่เก็บไว้นาน อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย

💡 วิธีแก้ไข: ตรวจสอบวันหมดอายุของยาเป็นประจำ และกำจัดยาหมดอายุอย่างถูกวิธี


สรุป

ยาสามัญประจำบ้านเป็นตัวช่วยที่ดีในการดูแลสุขภาพ แต่หากใช้ผิดวิธี อาจเกิดอันตรายโดยไม่รู้ตัว เพื่อให้มั่นใจว่าใช้ยาได้อย่างปลอดภัย ควรอ่านฉลาก ใช้ยาอย่างถูกต้อง เก็บยาให้เหมาะสม และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเมื่อจำเป็น

การใช้ยาอย่างมีสติและรอบคอบ จะช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

Inspiration Station
Logo
Compare items
  • Total (0)
Compare
0
Shopping cart